Review : App Sygic แอพที่จะพาไปท่องเที่ยวทั่วประเทศได้โดยไม่มีหลง

เขียนโดย Ad.กลม

      ขอจั่วหัวด้วย Icon ที่งดงามของ App Sygic ซึ่งเป็นแอพสำหรับนำทาง (GPS Navigation) ที่สะดวกสบายและมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย สำหรับระบบ iOS และ Android 

      โดยแอพ Sygic จะแบ่งแอพของตัวมันเองออกเป็นหลายแอพ เพื่อการใช้งานที่เหมาะสมและราคาที่เหมาะสมกับผู้ใช้งาน เช่น Sygic World, Sygic Europe, Sygic North America ฯลฯ และแน่นอน Sygic SE Asia (Southeast Asia) มีขายบน Store แล้วตอนนี้ ราคาอยู่ที่ $29.99 หรือประมาณ 990 บาทนั่นเอง ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาดูกันว่า Sygic เจ๋งขนาดไหนเมื่อเทียบกับเครื่อง GPS Navigation โดยเฉพาะ

นี่คือโฉมหน้าของ Sygic เมื่อเปิดเข้ามาใช้งาน

เมื่อ Zoom ออกก็จะเห็นชื่อเขตต่างๆในบริเวณโดยรอบได้อย่างกว้างขวาง

และแน่นอน Support ภาษาไทย 100%

ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ จะมีตามที่เห็นเลยเราจะเข้าไปดูที่ "นำทางไปยัง" กันก่อน

ฟังก์ชั่นต่างๆจะมีดังนี้

1. ที่อยู่หรือ POI - จะเป็นฟังก์ชั่นให้เรากำหนดได้ว่าเราจะไปที่เขตไหน จังหวัดอะไร ถนนอะไร

2. บ้าน - ถ้าไปเทียวไล้เทียวขื่อที่ไหนแล้วกลับบ้านไม่ถูก ก็กดให้ Sygic นำทางไปที่บ้านได้ทันที (ต้องไปเซทก่อนว่าบ้านเราอยู่ที่ไหนในฟังก์ชั่นการตั้งค่า

3. ค้นหาด่วน - เราสามารถพิมพ์ลงไปได้ในทันทีว่าอยากจะไปที่ไหน เช่น เอกมัย 24, ซานโตรินี, ลอฟท์ ฯลฯ

4. POI ใกล้เคียง - Sygic จะค้นหาจุดที่น่าสนใจ (Point of Interest) ที่ใกล้เคียงกับตำแหน่งที่เราอยู่โดยอัตโนมัติ ซึ่งเราสามารถกำหนดได้ว่าจะให้ค้นหาจุดที่น่าสนใจในหมวดหมู่ไหน เช่น ที่พักอาศัย, ห้างสรรพสินค้า, สถานีน้ำมัน ฯลฯ เป็นฟังก์ชั่นที่ Ad.กลม ใช้บ่อยทีเดียว

5. POI บนเส้นทาง - หลังจากที่เราได้เลือกเส้นทางแล้ว ถ้าเราเลือกฟังก์ชั่นนี้ Sygic จะแสดง POI บนเส้นทางที่เราจะผ่านไปทั้งหมดให้เราดู เราจะรู้ได้เลยว่าทางที่เราจะผ่านมี POI อะไรบ้าง

6. จุดที่ชื่นชอบ - เราสามารถบันทึกจุดที่เราไปบ่อยๆหรือบันทึกไว้กันลืมได้ในฟังก์ชั่นนี้

7. ประวัติ - ฟังก์ชั่นนี้จะแสดงว่าเราเคยให้ Sygic นำทางเราไปที่ไหนบ้างมาแล้ว

8. ติดต่อ - ในส่วนนี้จะเป็นฟังก์ชั่นที่จะติดต่อกับเพื่อนๆที่ใช้ Sygic ด้วยกัน
9. พิกัด GPS - เราสามารถใช้ตำแหน่งละติจูด, ลองติจูด กำหนดให้ Sygic นำทางให้เราได้ด้วย
10. ภาพถ่าย - ถ้าอยากอัพโหลดภาพของเราเข้าไปในแผนที่ก็ใช้ฟังก์ชั่นนี้ได้เลย

ส่วนใหญ่แล้ว Ad.กลม จะใช้ฟังก์ชั่นที่ 1,2,3,4,6 มากที่สุด ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆก็แล้วแต่คนชอบนะจ๊า

นี่จะเป็นหน้าร้านค้าของ Sygic ซึ่งทาง Sygic จะสามารถให้เราซื้อฟังก์ชั่นต่างๆเพิ่มได้

เช่น Traffic Information เราสามารถดูได้ว่า ถนนไหนรถติด หาทางเลี่ยงทางไหนดี

(แต่น่าเสียดายที่ยังไม่มีฟังก์ชั่นนี้สำหรับใช้ในประเทศไทยมีแค่ที่สิงคโปร์ แต่อีกไม่นานคงมีจ๊า)

ส่วนตัว Premium Speed Cameras นั้น ใช้ได้เฉพาะที่ที่เค้ามีการยิงจับสปีด (แบบในหนังที่ตำรวจจะเอาเครื่องมือเล็งมาที่รถเราแล้วทำการยิงเพื่อจับสปีดว่ารถเราวิ่งเร็วแค่ไหน)

แต่ตัว Sygic จะมีตัว Built-in fixed speed camera database ให้อยู่แล้ว ว่ากล้องจับความเร็วที่ติดตั้งไว้ในพื้นที่ต่างๆอยู่ที่ไหนบ้าง เราก็จะรู้ได้ในทันทีว่ากล้องแต่ละตัวมีอยู่ในเส้นทางที่เราวิ่งมั้ย

เพราะ Sygic จะเตือนว่า อีก 250 เมตรข้างหน้าจะมีกล้องตรวจจับความเร็วนะ

และฟังก์ชั่นพิเศษที่ทาง Sygic เพิ่งพัฒนาและออกจำหน่ายในช่วงที่ผ่านมาคือตัว Head up display

หรือเรียกสั้นๆว่า HUD นั่นเอง เจ้าตัวนี้เป็นตัวที่ Ad.กลม ชอบมากๆ

เพราะมันเป็นฟังก์ชั่นที่จะช่วยให้เรามองไปที่กระจกหน้ารถของเราแล้ว Sygic จะคอยนำทางให้เลย

นึกภาพไม่ออกใช่ม๊า? ลองดูรูปข้างล่างนี้เลย

เจ๋งใช่มั้ยล่ะ? นี่ถ้าใช้กับ iPad จอมันจะใหญ่มากเหมือนกับที่เราดูในหนัง Sci-fi เลย

ซึ่งตัวฟังก์ชั่น HUD นี้ก็จะสามารถกดให้มันกลับหัวเหมือนส่องกระจกได้

(ถ้าเอาไปส่องกับกระจกตรงๆมันจะกลับหัวให้ดูไม่รู้เรื่อง)

มาดูกันต่อที่ ฟังก์ชั่นการเดินทาง Sygic จะช่วยเราคำนวนว่าเราใช้ระยะเวลาเดินทางไปเท่าไร

และความเร็วเฉลี่ยในการขับเท่าไร ซึ่งมีเป็นกราฟให้ดูอย่างง่ายๆได้เลย

(สามารถดูย้อนหลังไปได้อีกเยอะเลย)

  

ในฟังก์ชั่นฉุกเฉิน/ช่วยเหลือ ก็จะมีโรงพยาบาล, สถานีตำรวจ, สถานีเติมน้ำมัน, ร้านขายยา ที่ใกล้ที่สุดและพร้อมนำทางได้โดยทันที

ต่อไปเรามาดูมุมมองของ Sygic กัน

รูปข้างบนจะเป็นมุมมองแบบ 3 มิติ ซึ่ง Sygic จะแสดงภาพให้เราเห็นถึงความกว้าง ยาว สูงรวมถึงรูปทรงของตึกต่างๆให้เราได้เห็นเลย

ตัวอย่างภาพ 3 มิติที่ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลเวิลด์

รูปภาพข้างบนจะเป็นมุมมองแบบ 2 มิติ ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่คนชอบว่าจะใช้แบบไหน

(การเปลี่ยนมุมมองก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่กดปุ่ม # ที่ด้านขวามือ ที่อยู่ระหว่าง + และ - เท่านั้นเอง)

เรามาดูกันว่ามันจะนำเราไปยังเซนทรัลเวิลด์ยังไง Ad.กลมกดไปที่เซ็นทรัลเวิลด์ก็จะขึ้นมาหน้าจอแบบนี้

กดไปที่ ขับไปยัง ได้เลย จะขึ้นมาหน้าจอดังนี้

เราสามารถเลือกเส้นทางได้ว่าจะไปทางไหน

Sygic จะคำนวณหาระยะทางที่ใกล้ที่สุดไว้ 3 อันดับ

เราอยากไปทางไหนเราก็เลือกได้เลย โดยจะมีระยะทางและเวลาที่ใช้ในการเดินทางบอกไว้ดังรูป

(ฟังก์ชั่น "ลากเส้นทางเพื่อแก้ไข" ยังใช้ไม่ได้นะจ๊ะ)

หลังจากที่เราเลือกเส้นทางแล้วก็กดนำทางได้เล้ย

หน้าจอระหว่างนำทางจะเป็นแบบนี้ ซึ่งตัวลูกศรชี้คือที่ที่เราอยู่และหัวลูกศรคือทางที่เรากำลังมั่งหน้าไป

ซึ่งถ้าเรา Zoom ออกก็จะสามารถเห็นเส้นทางในระยะยาวที่ Sygic นำทางไปตามเส้นสีม่วง

และยังมีเสียงคอยบอกด้วยนะว่าให้เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยงขวาและควรจะอยู่เลนไหน

      จากที่ดูรีวิวมา เพื่อนๆคิดเห็นยังไงกับ Sygic บ้างเอ่ย ก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียตามๆกันไป ทางข้อดี Ad.กลม คงรีวิวให้ดูเกือบหมดแล้ว 

      ส่วนข้อเสียที่เห็นได้ชัดเจนของ Sygic ก็คือ การสะกดคำในการหา POI ซึ่งน่าจะเป็นปัญหาของ GPS Navigation แทบทุกรุ่น เช่น Ad.กลมอยากไปที่ พัทยา อันนี้คงไม่มีปัญหา แต่ถ้า Ad.กลมอยากไปที่ Black Mountain Waterpark ที่หัวหิน ชื่อสถานที่ใน Sygic บางที่ ถูกเขียนทับศัพท์เป็นภาษาไทย แล้วไม่สามารถค้นหาโดยใช้ชื่อภาษาอังกฤษได้ ก็จะกลายเป็นว่าค้นหาไม่เจอ หรือไม่ก็ต้องเดาวิธีการเขียนให้ได้ว่าจะเขียนทับศัพท์ว่าอะไร

      เป็นยังไงกันบ้างกับแอพ Sygic GPS Navigation หวังว่ารีวิวนี้คงถูกใจและมีประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อเลือกใช้ GPS Navigation สำหรับเดินทางเทียวไล้เทียวขื่อกัน ไว้เจอกันในรีวิวครั้งต่อๆไปกับ Ad.กลมนะคร๊าบ